การขาดออกซิเจน หรือ ภาวะพร่องออกซิเจน
top of page
dustfreehouses_logo.png

ภาวะพร่องออกซิเจน คืออะไร? มีสาเหตุอะไรที่ทำให้เกิดภาวะนี้บ้าง?


ภาวะพร่องออกซิเจน (Hypoxia) คือ ภาวะที่เนื้อเยื่อในร่างกายขาดออกซิเจน ซึ่งเป็นผลมาจากการที่ร่างกายมีปริมาณออกซิเจนในเลือดต่ำกว่าปกติ (hypoxemia) จึงทำให้เลือดไม่สามารถนำออกซิเจนไปเลี้ยงเนื้อเยื่อในส่วนต่าง ๆ ของร่างกายได้นั่นเอง จนทำให้การทำงานของร่างกายและสมองบกพร่อง จึงแสดงลักษณะผิดปกติออกมาให้เห็นทางภายนอก เช่น ผิวหนังเขียวซีด เหงื่อออกมาก หายใจผิดปกติ เป็นต้น



โดยภาวะพร่องออกซิเจนนี้ สามารถแบ่งออกได้ 4 ชนิด ตามสาเหตุการเกิด ดังนี้





1.ภาวะพร่องออกซิเจนซึ่งร่างกายได้รับออกซิเจนน้อย (Hypoxic Hypoxia) เป็นชนิดที่พบได้บ่อยที่สุด โดยมีสาเหตุมาจาก


  • ความกดดันของออกซิเจนในถุงลมปอดลดลง มักเกิดขึ้นจากการที่ขึ้นไปอยู่ในที่สูง เช่น ภูเขา ยอดตึก ขึ้นเฮลิคอปเตอร์ เนื่องจากความกดบรรยากาศลดลง ออกซิเจนจึงเบาบางไปด้วย กล่าวคือ ร่างกายจะได้รับออกซิเจนน้อยกว่าตอนอยู่ที่ระดับพื้นดินนั่นเอง ภาวะพร่องออกซิเจนชนิดนี้ ยังอาจเกิดจากการกลั้นหายใจ อากาศที่หายใจมีก๊าซอื่นปะปน หรือเกิดในผู้ป่วย โรคหอบหืด

  • พื้นที่ที่ใช้ในการแลกเปลี่ยนก๊าซระหว่างปอดกับกระแสเลือดลดลง มักเกิดในผู้ที่มีอาการปอดแฟบ มีลมในช่องปอด เป็นต้น

  • ออกซิเจนไม่สามารถซึมผ่านจากถุงลมปอดไปสู่กระแสเลือดได้สะดวก มักเกิดในผู้ที่มีอาการปอดบวม เป็นโรคเยื่อไฮยาลีน หรือจมน้ำ เป็นต้น


2. ภาวะพร่องออกซิเจนซึ่งมีสาเหตุจากเลือด (Hypemic Hypoxia) โดยมีสาเหตุมาจากความบกพร่องในการนำออกซิเจนไปเลี้ยงเซลล์ต่าง ๆ ของร่างกาย เช่น จำนวนเม็ดเลือดแดงในเลือดลดลง เป็นโรคโลหิตจาง เกิดการเสียเลือดมาก ภาวะผิดปกติของฮีโมโกลบิน ร่างกายได้รับยาหรือสารพิษบางอย่าง เช่น ยากลุ่มซัลฟานิลาไมด์ ยาเสพติด ก๊าซคาร์บอนมอนนอกไซด์ เป็นต้น


3. ภาวะพร่องออกซิเจนซึ่งมีสาเหตุจากการคั่งของกระแสเลือด (Stagnant Hypoxia) เกิดจากความบกพร่องในการไหลเวียนของเลือด เช่น แรงดันเลือดจากหัวใจลดลง เนื่องจากเป็นโรคหัวใจล้มเหลว เป็นต้น


4. ภาวะพร่องออกซิเจนซึ่งมีสาเหตุจากภาวะเป็นพิษของเซลล์ (Histotoxic Hypoxia) เกิดขึ้นจากการที่เซลล์ต่างๆ ของร่างกายไม่สามารถนำเอาออกซิเจนไปใช้ได้ เนื่องจากได้รับสารพิษ เช่น แอลกอฮอล์ ควันพิษ ไซยาไนด์ เป็นต้นในคนปกติทั่วไปจะระดับออกซิเจนในเลือดอยู่ที่ 80 – 100 มิลลิเมตรปรอท แต่ผู้ที่มีภาวะพร่องออกซิเจนจะมีระดับออกซิเจนที่ต่ำกว่าคนทั่วไป



ภาวะพร่องออกซิเจน สามารถสังเกตอาการผิดปกติอย่างไรได้บ้าง?





ผู้ที่มีภาวะพร่องออกซิเจน อาจมีความรุนแรงและอาการที่แสดงออกมาแตกต่างกัน เนื่องจากมีเหตุปัจจัยที่แตกต่างกัน เช่น ผู้ที่มีภาวะพร่องออกซิเจนจากการอยู่บนที่สูง ยิ่งหากอยู่บนที่สูงมาก ๆ หรืออยู่เป็นระยะเวลานานมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งเพิ่มระดับความรุนแรงมากขึ้นเท่านั้น หรือในเด็ก ผู้สูงอายุ และผู้ที่มีโรคประจำตัว ก็อาจจะมีอาการที่รุนแรงกว่าคนที่แข็งแรงทั่วไป แต่ถึงอย่างไร ก็สามารถสังเกตอาการบ่งชี้ภายนอกได้ดังนี้


  • ผิวหนังซีด หรือเป็นสีเขียวคล้ำ

  • ไอ คลื่นไส้อาเจียน หัวใจเต้นเร็วผิดปกติ

  • วิงเวียนหรือปวดศีรษะ

  • มีเหงื่อออกมาก รู้สึกร้อน ๆ หนาว ๆ วูบวาบตามตัว มือเท้าชา

  • หายใจลำบาก ถี่ หรือมีเสียงหวีด

  • รู้สึกกระสับกระส่าย กระวนกระวาย

  • ตาพร่ามัว สับสน มึนงง ซึม

  • การรับรู้ตัวลดลง ไม่ตอบสนองต่อสิ่งเร้าภายนอก หากปล่อยไว้อาจเกิดอาการเพ้อ ชัก หมดสติ อาจเข้าสู่ภาวะโคม่า และอาจเสียชีวิตได้


ส่วนในเด็กก็อาจอาการข้างต้นเช่นเดียวกับผู้ใหญ่ แต่อาจสังเกตอาการผิดปกติ ได้ดังนี้

  • ดูอ่อนเพลีย รู้สึกไม่สบายตัว

  • เลิกสนใจของเล่น หรือสิ่งที่เด็กเคยสนใจ

  • สังเกตเห็นเด็กนั่งเอนตัวไปทางด้านหน้า เนื่องจากทำให้หายใจได้สะดวกขึ้น

  • เด็กที่มีโรคเกี่ยวกับระบบหายใจ อาจมีอาการหายใจทางปากและมีน้ำลายไหลออกมามากผิดปกติ


ในผู้ป่วยบางราย อาจไม่พบอาการบ่งชี้ข้างต้น แต่เราสามารถตรวจสอบระดับออกซิเจนในเลือดได้ โดยการใช้เครื่องวัดออกซิเจนปลายนิ้ว หากพบว่ามีค่าความอิ่มตัวของออกซิเจนต่ำกว่า 90% นั่นแปลว่าเกิดภาวะพร่องออกซิเจน ดังนั้น หากสังเกตแล้วพบอาการบ่งชี้ข้างต้น หรือพบว่าระดับออกซิเจนต่ำกว่าปกติแม้ไม่มีอาการ ก็ควรรีบนำตัวไปพบแพทย์เพื่อทำการวินิจฉัยและรักษาทันที


วิธีป้องกันการเกิด ภาวะพร่องออกซิเจน


สำหรับผู้ที่มีภาวะพร่องออกซิเจน เมื่อไปพบแพทย์ แพทย์ก็จะทำการบำบัดรักษาด้วยการให้ออกซิเจนเพื่อให้ระดับออกซิเจนในเลือดกลับมาดีขึ้น แต่ถึงอย่างนั้น เราสามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมเพื่อช่วยเยียวยาให้ร่างกายกลับมาดีขึ้น และสำหรับผู้ที่ไม่ได้มีภาวะพร่องออกซิเจน

ก็ยังถือว่าเป็นวิธีที่ช่วยลดโอกาสการเกิดได้ค่ะ




  • หลีกเลี่ยงการสูบบุหรี่ หรือการรับควันบุหรี่

  • ดื่มน้ำเปล่าสะอาดมาก ๆ ให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายต่อวัน

  • รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ให้ครบ 5 หมู่

  • ออกกำลังกายเป็นประจำ เช่น โยคะ การเดิน

  • หมั่นตรวจระดับออกซิเจนในเลือด ด้วยเครื่องวัดออกซิเจนในเลือด

  • หากเป็นเด็กเล็ก ผู้สูงอายุ ผู้ป่วย หรือผู้ที่เคยมีภาวะพร่องออกซิเจน ให้พยายามหลีกเลี่ยงการอยู่บนที่สูงมาก ๆ หรือหลีกเลี่ยงการอยู่ในพื้นที่ที่อากาศเบาบาง

  • หากเป็นผู้ป่วยโรคหอบหืด ควรปฏิบัติตามคำแนะนำแพทย์อย่างเคร่งครัด และได้รับการพ่นยาตามคำสั่งแพทย์อย่างสม่ำเสมอ


สรุป


ภาวะพร่องออกซิเจน แม้ส่วนใหญ่จะเป็นภาวะที่มักเกิดขึ้นกับผู้ป่วยที่มีปัญหาเกี่ยวกับระบบหายใจ แต่ก็เป็นภาวะที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคนและทุกวัย ซึ่งบางครั้งมักมีสาเหตุมาจากปัจจัยใกล้ตัวที่หลายคนมองข้ามไป แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นหากพบว่ามีอาการผิดปกติตามที่กล่าวข้างต้น หรือตรวจวัดออกซิเจนในเลือด ด้วยเครื่องวัดออกซิเจนปลายนิ้ว แล้วพบว่าออกซิเจนต่ำผิดปกติ ควรรีบปรึกษาแพทย์ เพื่อทำการวินิจฉัยและรักษา ก่อนจะเกิดภาวะรุนแรง

bottom of page