- Jarupron Phudithboonyin

- 1 ก.ย.
- ยาว 2 นาที
อัปเดตเมื่อ 3 ก.ย.
เลือกไส้กรองอากาศไหนดี ระหว่าง HEPA กับ ULPA?

ในยุคนี้ที่ทุกคนล้วนได้รับผลกระทบจากมลพิษในอากาศ ไม่ว่าจะเป็นสุขภาพของตัวเอง หรือสุขภาพของคนในครอบครัว เช่น ลูกน้อย หรือผู้สูงอายุ (หรือแม้กระทั่งสัตว์เลี้ยง) เราแทบปฏิเสธไม่ได้เลยว่า เครื่องฟอกอากาศได้กลายเป็นสิ่งจำเป็นอย่างนึงในบ้าน ที่เราขาดไม่ได้ไปแล้ว ซึ่งถ้าใครเคยเลือกซื้อ หรือหาข้อมูลเปรียบเทียบในอินเตอร์เน็ต คงเคยเห็นคำว่า ไส้กรอง HEPA Filter กับไส้กรอง ULPA Filter ผ่านๆ ตากันมาบ้าง แล้วคุณสงสัยมั้ยว่าไส้กรองทั้งสองแบบนี้แตกต่างกันยังไง และควรซื้ออันไหนมากกว่า?
ก่อนอื่นต้องมาทำความเข้าใจกับชั้นกรองต่างๆในเครื่องฟอกอากาศทั่วไปก่อน โดยส่วนมากแล้วจะมีทั้งหมด 3 ชั้น:
Pre-Filter (ไส้กรองฝุ่นหยาบ) : กรองฝุ่นขนาดใหญ่ เช่น ขนสัตว์ เกสรดอกไม้ที่มองเห็นได้ ฯลฯ
Activated Carbon Filter (ไส้กรองถ่าน) : ดูดซับ ก๊าซ กลิ่น VOC ฟอร์มาลดีไฮด์ ฯลฯ
Main Filter (ไส้กรองหลัก) : กรองฝุ่นละเอียด เช่น PM2.5 PM10 ฯลฯ
หมายเหตุ : Main Filter ไม่สามารถดักจับก๊าซและกลิ่นได้ และต้องพึ่ง Activated Carbon ร่วมด้วย

โดยเจ้า HEPA กับ ULPA Filter ก็คือชนิดของ Main Filter (ไส้กรองหลัก) นั่นเอง
ซึ่งแตกต่างกันที่ประสิทธิภาพการกรอง และขนาดของอนุภาคที่สามารถกำจัดได้
โดยแต่ละชนิดก็มีหลากหลายเกรดกันไป
HEPA Filter
ไส้กรองประสิทธิภาพสูง
สามารถกรองได้ 99.97% ที่ ถึงขนาด 0.3 ไมครอน (µm)
กรองฝุ่นละเอียด PM2.5
มี 2 เกรด : H13, H14
ULPA Filter
ไส้กรองประสิทธิภาพ “สูงกว่า HEPA อีกขั้น”
สามารถกรองได้ 99.9995% ถึงขนาด 0.1 ไมครอน (µm)
กรองฝุ่นละเอียด PM2.5 / เชื้อโรค / ไวรัส
มี 3 เกรด : U15, U16, U17
(อ้างอิงจาก EN 1822/ISO 29463)

แล้วกรอง “ฝุ่น-เชื้อโรค-ไวรัส” ต่างกันอย่างไร?
ฝุ่นละอองทั่วไป
ฝุ่นละอองทั่วไปมีขนาดอนุภาคอยู่ที่ 0.1–10 µm (เช่น PM2.5 = 2.5 µm, PM10 = 10 µm, เกสรดอกไม้ = 30 µm) ซึ่งทั้ง HEPA และ ULPA ต่างมีประสิทธิที่ดีในการกำจัดฝุ่นประเภทนี้
เชื้อโรค-ไวรัส ในอากาศ
เชื้อโรคในอากาศ มักเดินทางมากับละอองน้ำ ซึ่งส่วนใหญ่มีขนาดเล็กกว่า 5 µm และสามารถคงลอยอยู่นานภายในอาคารหากไม่มีการกรองอากาศ หรือระบบระบายอากาศที่เหมาะสม และหากเป็นตัวอนุภาคไวรัสเดี่ยว ๆ อาจมีช่วงขนาดประมาณ 0.06–0.14 µm (ขึ้นอยู่กับชนิด) ซึ่งไส้กรอง HEPA สามารถช่วยกำจัดเชื้อโรคในอากาศได้ในระดับหนึ่ง แต่ไส้กรอง ULPA ที่หนาแน่นกว่า สามารถกำจัดได้ละเอียดกว่า
แล้วบ้านเราควรเลือกไส้กรองแบบไหน?
หากคุณต้องการเน้นเรื่องความคุ้มค่า และการกำจัดฝุ่นทั่วไปในบ้าน เช่น PM2.5 ขนสัตว์ ละอองเกสร ฯลฯ ไส้กรอง HEPA Filter ก็เพียงพอ
แต่ถ้าที่บ้านมี เด็กเล็ก / ผู้สูงอายุ / ผู้ป่วยภูมิแพ้หรือโรคทางเดินหายใจ และอยากลดความเสี่ยงจากฝุ่นละอองการติดเชื้อให้เหลือน้อยที่สุด ไส้กรอง ULPA Filter (อย่างน้อยเกรด U15) เป็นทางเลือกที่ดีกว่าแน่นอน

ผู้อยู่อาศัยในเมืองไม่ได้เผชิญแค่ปัญหาเรื่องฝุ่น PM2.5 และเชื้อโรคในอากาศอย่างเดียว แต่ยังมีภัยอันตรายจากไอระเหยของสารเคมี ควันไอเสียรถดีเซล โดยล้วนแต่เป็นสารก่อมะเร็ง เช่นเดียวกับเจ้าฝุ่นจิ๋ว อีกทั้งกว่า 90% ของอนุภาคในอากาศมีขนาดเล็กกว่า 0.1 µm ซึ่งต้องพึ่งการดูดซับจากไส้กรองอากาศ Activated Carbon คุณภาพสูง คู่กับ ULPA Filter ในการกำจัดอันตรายเหล่านี้ออกไป
ทั้งนี้การพึ่งพาเครื่องฟอกอากาศอย่างเดียวก็ยังไม่เพียงพอ เพราะอาจจะมีปัญหาเรื่องของ Sick Building Syndrome (โรคตึกเป็นพิษ) ซึ่งเกิดจากการขาดระบบระบายอากาศที่เหมาะสมภายในอาคารด้วย โดยเฉพาะในห้องนอน หรืออาคารสำนักงานแบบปิด อีกทั้งหากบ้านของคุณใช้บานหน้าต่าง หรือประตูที่ไม่มีซีลยางดีๆ ฝุ่นและมลพิษจากภายนอกก็ยังสามารถเล็ดลอดเข้ามาในบ้านได้อยู่ดี และจะยิ่งเยอะขึ้นหากคุณอยู่ในห้องคอนโดสูงๆ เพราะฝุ่นเล็กๆจะลอยตัวอยู่ด้านบนมากกว่า ซึ่งสามารถแก้ไขและป้องกันได้ด้วยระบบอากาศแรงดันบวก (Positive Air Pressure) พร้อมไส้กรองอากาศคุณภาพสูง (แนวทางจาก ASHRAE 241)
เราหวังว่าบทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจความแตกต่างระหว่างไส้กรอง HEPA และ ULPA Filter ได้ดีขึ้น และช่วยให้คุณตัดสินใจเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์เพื่ออากาศที่ดีของทุกคนในครอบครัวได้ง่ายขึ้นครับ
ความคิดเห็น