top of page
  • รูปภาพนักเขียน: Jarupron Phudithboonyin
    Jarupron Phudithboonyin
  • 10 ก.ย.
  • ยาว 1 นาที

อัปเดตเมื่อ 16 ก.ย.

โรคตึกเป็นพิษ - ภัยร้ายที่ทุกคนเคยเป็นแต่อาจแค่ไม่รู้ตัว


โรคตึกเป็นพิษ
โรคตึกเป็นพิษ - ภัยร้ายที่ทุกคนเคยเป็นแต่อาจแค่ไม่รู้ตัว

“พออยู่ในอาคารซักพักแล้วปวดหัว แสบตา คัดจมูก เวียนศีรษะ แต่พอออกมาแล้วรู้สึกดีขึ้น”

หากคุณกำลังมีอาการเหล่านี้ มันอาจไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แต่คุณอาจกำลังเผชิญกับปัญหา
“โรคตึกเป็นพิษ​ หรือ Sick Building Syndrome (SBS)” ภัยร้ายที่เรามองข้าม จากการละเลยเรื่องง่ายๆ อย่างเช่น “อากาศ”


โรคตึกเป็นพิษ | Sick Building Syndrome (SBS) คืออะไร?

โรคตึกเป็นพิษ คือ กลุ่มอาการผิดปกติที่เกิดขึ้นชั่วคราวเมื่ออยู่ในอาคาร และมักดีขึ้นเมื่อออกจากอาคาร
สาเหตุมักเกิดจากคุณภาพอากาศในอาคารที่ไม่ดี หรือระบบระบายอากาศที่ไม่เหมาะสม โดยมีผลต่อทั้งสุขภาพ และการทำงาน
ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้ทั้งใน บ้าน คอนโด ห้องนอน สำนักงาน ห้องเรียน
​หรือสถานที่ที่มีการใช้สารเคมีเป็นประจำ เช่น คลินิก ร้านเสริมสวย ร้านสื่อสิ่งพิมพ์ ฯลฯ


โรคตึกเป็นพิษ

อาการที่พบได้บ่อย

  • ตื่นแล้วยังรู้สึกเพลีย ไม่สดชื่น

  • ปวดศีรษะ เวียนศีรษะ ง่วง

  • แสบตา คันจมูก ระคายคอ ผิวแห้ง

  • สมาธิลดลง โฟกัสยาก หงุดหงิดง่าย


โรคตึกเป็นพิษ

สาเหตุหลัก (มักเกิดร่วมกันหลายข้อ)

  1. การระบายอากาศไม่เพียงพอ อาการโรคตึกเป็นพิษมันจะสูงขึ้นในอาคารที่มีอัตราการระบายอากาศต่ำ โดยตาม ASHRAE Standard 62.1 และ 62.2 
อัตราการระบายอากาศควรจะอยู่ที่ประมาณ 10-20 CFM ต่อคน (ขึ้นอยู่กับประเภทอาคาร ขนาดของสถานที่ และจำนวนคน)

  2. สถานที่มีความอับชื้นสะสมสูง ความอับชื้น และการไม่ระบายอากาศ สามารถก่อให้เกิด เชื้อราซึ่งทำให้เสี่ยงต่อโรคทางเดินหายใจกำเริบ
โดยอาจเกิดจากระบบปรับอากาศที่ไม่ได้รับการบำรุงรักษา ปัญหาเกี่ยวกับโครงสร้างอาคาร ฯลฯ
ค่าความชื้น RH ในอาคารควรอยู่ที่ 40-60%

  3. การใช้สารเคมีภายในอาคาร สารระเหย (VOCs) จากเคมีที่ใช้ในอาคาร เช่น กาวจากเฟอร์นิเจอร์ สีทาผนัง หมึกพิมพ์ ยาย้อมผม ฯลฯ

  4. คาร์บอนไดออกไซด์ (CO₂) สะสมสูง หากอาคารมีคนหนาแน่น และระบายอากาศไม่เพียงพอคาร์บอนไดออกไซด์จะสะสมขึ้นอย่างรวดเร็วจากการหายใจของมนุษย์
ซึ่งตาม ASHRAE Standard ไม่ควรเกินระดับ 1,000 ppm ภายในอาคาร

  5. การแทรกซึมของอากาศสกปรก ฝุ่นและมลพิษสามารถเล็ดรอดเข้ามาข้างในได้ ตามรอยรั่วต่างของอาคาร เช่น ประตู หน้าต่าง รูอากาศ ฯลฯ


วิธีการแก้ไข

  1. ตรวจเช็คจุดรั่วซึมของน้ำ / แหล่งความชื้น และแก้ให้แห้งถาวร

  2. ระบายอากาศให้ถึงมาตรฐาน ASHRAE Standard 62.1 & 62.2

  3. ตรวจเช็คจุดรั่วซึมของอากาศ และสร้างอากาศแรงดัน (Positive Pressure) เพื่อป้องกันไม่ให้มลพิษเล็ดรอดเข้ามา

  4. ควบคุมความชื้น (RH) ให้อยู่ที่ 40-60% เพื่อป้องกันไม่ให้อากาศแห้งเกินไป หรือชื้นไปจนเกิดเชื้อรา

  5. ใช้ไส้กรองอากาศที่มีประสิทธิภาพ ด้วย Activated Carbon Filter คุณภาพสูงคู่กับ ULPA Filter

  6. วางเซ็นเซอร์ CO₂ / PM2.5 / VOC / ความชื้น เพื่อเฝ้าดูคุณภาพอากาศ



ทำไม “ระบบบ้านปลอดฝุ่น แรงดันบวก G-Life” จึงตอบโจทย์ปัญหา “โรคตึกเป็นพิษ”


เครื่องฟอกอากาศแรงดันบวก FreshO
ระบบอากาศสะอาด บ้านปลอดฝุ่นแรงดันบวก G-Life

ระบบอากาศสะอาด บ้านปลอดฝุ่นแรงดันบวก G-Life ทำงานด้วยการเติมอากาศสะอาดอย่างต่อเนื่องเข้าไปในอาคาร
ซึ่งช่วยระบายอากาศในอัตราตามที่ ASHRAE Standard กำหนด ช่วยสร้างอากาศแรงดันบวก
เพื่อให้อากาศภายในสะอาดตลอดเวลา และลดความเสี่ยงของ “โรคตึกเป็นพิษ / Sick Building Syndrome (SBS) 
โดยอากาศที่เติมเข้ามาจะผ่านชั้นกรอง 6 ขั้นตอนด้วย Activated Carbon และ ULPA Filter
พร้อมฆ่าเชื้อซ้ำด้วยหลอดไฟ UV-C มั่นใจว่าอากาศจะปลอดฝุ่น ปลอดกลิ่น ปลอดเชื้อโรค ไวรัส และเชื้อรา ก่อนเติมเข้ามา


จากงานศึกษาที่กรณีโรงเรียนปรับมาใช้ ระบบแรงดันบวกในการระบายอากาศ
ผลคือสามารถช่วยปรับปรุงคุณภาพอากาศและทำให้ผู้ใช้อาคารรับรู้ดีขึ้นพร้อมกัน


อ้างอิง : Vornanen-Winqvist et al. (2018)



แหล่งอ้างอิง: [1] [2] [3] [4] [5] [6]

 
 
 

ความคิดเห็น


ไม่สามารถแสดงความคิดเห็นในโพสต์นี้ได้แล้ว เพื่อรับทราบข้อมูลเพิ่มเติม โปรดติดต่อเจ้าของเว็บไซต์

 

Dust Free House

 

© G-Evolution Co.,Ltd.

     

บริษัท จี อีโวลูชั่น จำกัด (สำนักงานใหญ่)
191/3 หมู่ 2 ตำบลบ้านคลองสวน
อำเภอพระสมุทรเจดีย์ สมุทรปราการ 10290

G-Evolution Co., Ltd. (Headquarter)
191/3 Moo 2, Banklongsuan Sub-district,

Phra Samut Chedi District, Samut Prakan, 10290

Add LINE บ้านปลอดฝุ่น
ติดต่อ บ้านปลอดฝุ่น
ติดต่อ บ้านปลอดฝุ่น
ติดต่อ บ้านปลอดฝุ่น
  • Facebook
bottom of page